การกู้วิกฤตการยางแห่งประเทศไทย
1 เรื่องแผนการตลาดรูปแบบใหม่
กยท. มีความมั่นใจแผนการตลาดรูปแบบใหม่ เนื่องจากมีวัตถุประสงค์เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อน ของเกษตรกรชาวสวนยางที่ขายยางต่ำกว่าต้นทุนการผลิต เพราะขาดอำนาจต่อรองราคา กยท. ได้ประชุมร่วมกับสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ที่ผลิตยางแผ่นรมควัน ตามมาตรฐาน GMP เพื่อนำเสนอโครงการสร้างเสริมศักยภาพขยายตลาดคู่ค้ายางพาราไทยหลักการของโครงการคือ ระดมทุนจากสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อทำธุรกิจเป็นคู่ค้า กับ กยท. โดยสถาบันเกษตรกรฯ รวบรวมยางแล้วส่งเข้าโรงงานของ กยท. โดย กยท. รับจ้างผลิตเป็นยางแผ่นรมควัน GMP แล้วมอบให้คู่ค้านำไปขายตลาดต่างประเทศ ราคาขายยางจะกำหนดโดยยึดต้นทุนการผลิตบวกกำไรในอัตราที่เหมาะสม จึงไม่เกิดผลขาดทุน สถาบันเกษตรกรฯ เห็นด้วยและตกลงจะเข้าร่วมโครงการ
2. เรื่องผลขาดทุนทางบัญชีกว่า 600 ล้านบาท
ข่าวที่ว่า 6 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2561 ขาดทุนทางบัญชีกว่า 600 ล้านบาท คาดว่าสิ้นปีจะขาดทุนเพิ่มเป็น 1,200 ล้านบาท อาจทำให้ต้องขายทรัพย์สินเพื่อรักษาพนักงานกว่า 3,000 คน ไว้ ข่าวนี้คลาดเคลื่อน ดังนั้น เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง ขอชี้แจงข้อเท็จจริง คือ
- รายได้จากเงินค่าธรรมเนียมส่งยางออกที่จัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการของ กยท. ตามพระราชบัญญัติมาตรา 49 (1) สำหรับปี 2561 - 2562 ไม่เพียงพอ ส่วนที่ขาดตามพระราชบัญญัติกำหนดให้ขอตั้งงบประมาณแผ่นดินสมทบ แต่ กยท. ได้รับงบประมาณไม่ครบตามจำนวนที่ขอตั้งไป กยท. จึงต้องปรับลดค่าใช้จ่ายกับนำเงินสำรองออกมาใช้เพื่อให้รายได้สมดุลกับงบประมาณรายจ่าย จึงไม่มีเหตุที่ กยท. จะต้องขายทรัพย์สิน หรือ ให้พนักงานออกจากงานแต่อย่างใด กยท. เพียงแต่กำหนดมาตรการประหยัดและยังไม่เพิ่มอัตรากำลัง เพื่อให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพ
ผ่องเพ็ญ สัมมาพันธ์ ที่ปรึกษาการยางแห่งประเทศไทย ข้อมูล