กยท. เร่งสร้างความเข้าใจ การทำประกันอุบัติเหตุกลุ่มชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ
กยท. คุ้มครองจริงหากเสียชีวิตจากอุบัติเหตุ ส่วนเหตุฆาตกรรม/ทำร้ายร่างกาย
ต้องไม่ได้มีสาเหตุจากการทะเลาะวิวาทหรือขัดแย้งส่วนตัว พร้อมแจงหากสวนยางเสียหายจากภัยธรรมชาติ
ให้รีบประสานเจ้าหน้าที่ กยท. ภายใน 15 วัน เพื่อขอรับการช่วยเหลือเยียวยา
นายสุขทัศน์
ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ เปิดเผยว่า กยท.
ได้จัดทำประกันอุบัติเหตุกลุ่มให้แก่เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนไว้กับ กยท.
จำนวนกว่า 1.4
ล้านราย เพื่อเป็นสวัสดิการให้เกษตรกรชาวสวนยางตามมาตรา 49
(5) ของพระราชบัญญัติการยางแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2558 โดยให้การคุ้มครองกรณีสูญเสียชีวิตหรือบาดเจ็บทุพพลภาพถาวรอย่างสิ้นเชิง
ซึ่งมีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุ ถูกฆาตกรรมและถูกทำร้ายร่างกาย โดยผู้เสียหายมิได้มีเจตนาให้เกิดขึ้น
เพื่อหวังรับเงินเอาประกันภัย หรือ การถูกฆาตกรรมที่ไม่ได้มีสาเหตุจากการทะเลาะวิวาทหรือขัดแย้งส่วนตัวมาก่อน
ทั้งนี้ ยังคุ้มครองกรณีเกิดอุบัติเหตุจากการขับขี่/โดยสารรถยนต์ สูงสุดรายละ 500,000
บาท และได้ขยายการคุ้มครองกรณีอุบัติเหตุที่เกิดจากการขับขี่/โดยสารรถจักรยานยนต์
สูงสุดรายละ 250,000 บาท โดยจะได้รับสินไหมอุบัติเหตุภายใน
45 วันทำการ
นับจากวันที่บริษัทได้รับเอกสารครบถ้วนและถูกต้อง
กรณีเสียชีวิตจะได้รับเงินค่าปลงศพ รายละ 30,000 บาท โดยบริษัทประกันจ่ายค่าปลงศพให้ภายใน
15 วันทำการ และ กยท.
จะมอบเงินเงินช่วยเหลือให้แก่ทายาท กรณีเกษตรกรชาวสวนยางเสียชีวิตอีกรายละ 3,000
บาท โดยเป็นเงินจากกองทุนพัฒนายางพารา มาตรา 49 (5) เพื่อเป็นสวัสดิการของเกษตรกรชาวสวนยางเพิ่มเติมด้วย
"ต้องเน้นย้ำว่า การทำประกันอุบัติเหตุกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้ขึ้นทะเบียนกับ
กยท. เป็นการคุ้มครองในกรณีเสียชีวิตหรือบาดเจ็บทุพพลภาพถาวรอย่างสิ้นเชิงจากอุบัติเหตุ และจากการฆาตกรรม หรือถูกทำร้ายร่างกายโดยไม่มีเหตุจากการบาดหมางส่วนตัว
หรือมึนเมาสุราจนก่อให้เกิดเหตุดังกล่าว ซึ่งต่างจากประกันชีวิตทั่วไป
นายสุขทัศน์ กล่าวเพิ่มเติมในประเด็นการเยียวยาเกษตรกรชาวสวนยางที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ
ว่า เนื่องจากปีนี้
ประเทศไทยเข้าสู่ช่วงฤดูฝนเร็วกว่าปกติ และมีฝนตกหนักประกอบกับมีพายุฤดูร้อนในหลายพื้นที่
หากพี่น้องชาวสวนยางท่านใดที่สวนยางได้รับความเสียหายต้นยางโค่นล้มจนเสียสภาพสวนยางไม่น้อยกว่า 20 ต้นต่อไร่
ในบริเวณที่ได้รับความเสียหาย ให้ถ่ายภาพสวนยางที่ได้รับความเสียหาย
และเร่งประสานเจ้าหน้าที่ ของ กยท. เพื่อเข้าตรวจสอบและขอรับความช่วยเหลือจาก กยท.
ในพื้นที่ ภายใน 15 วัน สูงสุดรายละไม่เกิน 3,000 บาท
"กยท. มีการจัดสวัสดิการเพื่อเกษตรกร ตาม พ.ร.บ. การยางแห่งประเทศไทย พ.ศ.2558 ซึ่งครอบคลุมทั้งสวนยางพาราและตัวเกษตรกรชาวสวนยางเองด้วย ถือเป็นหน่วยงานเดียวในประเทศที่ให้การดูแลทั้งสวนยางและเจ้าของสวนยาง ทั้งนี้ เกษตรกรชาวสวนยางที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. สามารถตรวจสอบสิทธิ์ประกันอุบัติเหตุกลุ่มได้ทางเว็บไซต์การยางแห่งประเทศไทย www.raot.co.th หรือสอบถามข้อมูลหรือรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองสวัสดิการเกษตรกร โทร. (02) 433-2222 ต่อ 245 ในวันและเวลาราชการ รองผู้ว่าการ กล่าวย้ำ
ทีมข่าวประชาสัมพันธ์ กยท.