กยท. ย้ำ ขยายเวลาล๊อคดาวน์มาเลย์ ไม่กระทบตลาดยางไทย

          กยท. ย้ำชัด ประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์มาเลเซีย ไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดยางไทย ชี้ยังส่งออกยางได้ปกติ บวกกับจีนยังต้องการวัตถุดิบยางสำหรับเดินหน้าขยายการผลิตอุตสาหกรรมยางล้อ
          นางสาวอธิวีณ์ แดงกนิษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจยาง การยางแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ที่มาเลเซียประกาศขยายเวลาล็อกดาวน์ประเทศ จะไม่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตยางและราคายางในตลาดของไทย เนื่องจากเป็นเพียงการจำกัดช่วงเวลาในการขนส่งผ่านด่านระหว่าง ไทย-มาเลเซีย เพื่อรองรับมาตรการคัดกรองโรคโควิด-19 เท่านั้น ซึ่งดำเนินการมาตั้งแต่เดือน มิ.ย. ที่ผ่านมาแล้ว อีกทั้งการส่งออกยางพาราจากไทยไปมาเลเซียก็ยังทำได้ ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากเดิม ธุรกิจและภาคอุตสาหกรรมยังคงดำเนินไปตามปกติ จึงไม่อยากให้เกษตรกรชาวสวนยาง ผู้ประกอบการกังวลใจในเรื่องดังกล่าว
          นางสาวอธิวีณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ในขณะเดียวกัน ความต้องการยางยังขยายตัว เนื่องจากภาคอุตสาหกรรมของประเทศผู้ซื้อยางรายใหญ่อย่างประเทศจีน ยังคงเดินหน้าผลิตสินค้าเพื่อให้ทันตามออเดอร์ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมประเภทยานยนต์ ดังนั้น จีนจึงต้องการยางพาราจากไทย ทั้งยางแห้ง ยางแท่ง และยางแผ่น เพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิตยางล้อ โดยในเดือนที่ผ่านมาจีนมีกำลังการผลิตอุตสาหกรรมยางล้อที่ร้อยละ 60 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันในปีที่แล้ว โดยเฉพาะเมืองซานตง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตยางล้อรายใหญ่จีน
          "ขอย้ำว่า ปริมาณผลผลิตยางในปัจจุบันยังไม่มากเนื่องจากเพิ่งเริ่มเข้าสู่ฤดูกาล ซึ่งสมดุลกับความต้องการใช้ยาง แม้มาเลเซียจะขยายเวลาล๊อคดาวน์ประเทศต่อไป แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อตลาดของไทย จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนให้เข้าใจสถานการณ์ยางในปัจจุบัน ทั้งนี้ กยท.จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และพร้อมช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนยาง ผู้ประกอบการยาง เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าว” ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจยาง กล่าวทิ้งท้าย
                                                                       ทีมข่าวประชาสัมพันธ์ กยท.
« Back