เมื่อเร็วๆ นี้ การยางแห่งประเทศไทยเขตภาคกลางและภาคตะวันออก (กยท.ข.กอ.) ลงนาม MOU ร่วมสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านสะท้อน จำกัด มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี และ บริษัท โกลบอล อินทิเกรทเต็ด เอ็นเตอร์ไพรซ์ (ไทย) จำกัด มุ่ง "เชื่อมโยงการค้า สร้างนวัตกรรมรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตยางเครปบางสีน้ำตาลเกรดพรีเมี่ยม พร้อมจัดสัมมนาพัฒนาศักยภาพผู้นำสถาบันเกษตรกร ขยายขีดการแข่งขันด้านยางพารา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ณ โรงแรม แซนด์ดูนส์ เจ้าหลาว บีช รีสอร์ท จ.จันทบุรี
นายจิรวิทย์ มีชูภัณฑ์ ผู้อำนวยการ กยท.ข.กอ. กล่าวว่า การร่วมมือกันระหว่าง 4 หน่วยงานในครั้งนี้ เป็นการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อพัฒนาศักยภาพการแข่งขันด้านยางพาราร่วมกับผู้ประกอบกิจการยาง เพื่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) มุ่งเน้นการเพิ่มมูลค่าการแปรรูปผลผลิตของสถาบันเกษตรกรชาวสวนยาง ให้สามารถใช้ยางในปริมาณไม่มากแต่ขายได้มูลค่าสูง โดยเฉพาะในเชิงนวัตกรรม สร้างความคุ้มค่าในการลงทุน สอดคล้องกับการจัดสรรเงินตามมาตรา 49(3) ของ กยท. ที่มุ่งส่งเสริมการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ให้สถาบันฯ เกิดความเข้มแข็ง ผลักดันความคิดเชิงธุรกิจสู่ภาคอุตสาหกรรม เพื่อให้เกิดการพัฒนายางพาราได้อย่างแท้จริง โดยยึดหลักการทำเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ผู้อำนวยการ กยท.ข.กอ. กล่าวเพิ่มเติมว่า การแปรรูปยางเครปเกรดพรีเมี่ยม ถือเป็นสินค้ายางที่ไม่ได้มีการแข่งขันในเรื่องของปริมาณเท่านั้น แต่ยังแข่งขันกันในด้านสินค้าคุณภาพสูงด้วย จึงเป็นการสร้างความแตกต่าง ทำให้ตลาดยางพาราในภาคตะวันออกมีความโดดเด่น แสดงถึงศักยภาพในการผลิตยางคุณภาพของสถาบันเกษตรกรในเขตภาคกลางและภาคตะวันออก ซึ่งหากขยายผลพัฒนาวิธีการแปรรูปยางเครปพรีเมี่ยมไปสู่ภาคอื่นๆ อย่างเป็นรูปธรรมได้ จะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับเกษตรกรทั้งประเทศ ทั้งยังเป็นการเพิ่มมูลค่าและยกระดับราคายางด้วย
ด้านนายนิพนธ์ เลาห์กิติกูล ประธานสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านสะท้อน จำกัด กล่าวว่า ที่ผ่านมา กยท. ได้สนับสนุนการผลิตยางเครปสีน้ำตาล ตั้งแต่มาตรฐานการผลิตยางก้อนถ้วย เพื่อเป็นวัตถุดิบสำหรับนำมาแปรรูปเป็นยางเครปสีน้ำตาล สนับสนุนงบประมาณปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ไปจนถึงการสนับสนุนในด้านการตลาด รวมถึงได้รับความรู้จาก ม.ราชภัฏรำไพพรรณี ในการจัดการสิ่งแวดล้อมในโรงงาน และความร่วมมือในการซื้อขายกับบริษัทฯ นับเป็นก้าวสำคัญในการขยายตลาดสู่ผู้ซื้ออย่างแท้จริง ซึ่งสหกรณ์กองทุนสวนยางบ้านสะท้อน จำกัด มีพันธมิตรที่ดีจากอีกหลายสหกรณ์ ที่ให้ความสนใจในการผลิตยางเครปบางสีน้ำตาลคุณภาพดี ในอนาคตจะสามารถผลิตและรวบรวมสินค้าในปริมาณที่มากขึ้น พร้อมก้าวไปสู่ภาคอุตสาหกรรม
ผศ.ดร.ปรียนันท์ สิทธิจินดาร์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี กล่าวว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี พร้อมสนับสนุนการถ่ายทอดองค์ความรู้ และดำเนินการขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำเสียที่เกิดขึ้นจากกระบวนการผลิต เพื่อเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน (SDGs) รวมถึงสนับสนุนการดำเนินงานตามความร่วมมือเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะการทำเกษตรกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีมาตรฐาน ปลอดภัย และยั่งยืน
นางสาวกีรติญา กรณ์ชนาชัย กรรมการผู้จัดการบริษัท โกลบอล อินทิเกรทเต็ด เอ็นเตอร์ไพรซ์ (ไทย) จำกัด กล่าวว่า การร่วมกันในครั้งนี้ถือเป็นโอกาสดีในการพัฒนาผลผลิตจากยางพารา โดยเริ่มจากต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ซึ่งยางเครปสีน้ำตาลมีจุดเด่นคือไม่มีกลิ่น เป็นผลิตภัณฑ์ทางเลือกสินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีความต้องการของตลาด หากสามารถเพิ่มปริมาณยางเครปในตลาดให้มากขึ้นและเร็วขึ้น จะตอบโจทย์ความต้องการของผู้ซื้อได้อย่างแท้จริง
ทีมข่าวประชาสัมพันธ์ กยท.