กยท. จับมือ ซีเอ็ม-โอ ไทย สร้างแอปฯ หนุนขอรับรองมาตรฐานการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน

วันนี้ (16 ต.ค. 67) ณ ห้องประชุมราชไมตรี กยท. สำนักงานใหญ่ -- การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ตั้งโต๊ะร่วม บริษัท ซีเอ็ม-โอ ไทย จำกัด ลงนามบันทึกข้อตกลง "โครงการส่งเสริมการทำสวนยางตามมาตรฐานการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน” โดยได้รับเกียรติจาก ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการ กยท. เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รักษาการแทนผู้ว่าการ กยท. เป็นผู้ลงนามในบันทึกข้อตกลง นำเทคโนโลยี พัฒนาแอปพลิเคชัน สนับสนุนการขอรับรองมาตรฐานการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนผ่านสมาร์ทโฟน มุ่งเพิ่มรายได้-คุณภาพชีวิตชาวสวนยางอย่างยั่งยืน
 
ดร.เพิก เลิศวังพง ประธานกรรมการการยางแห่งประเทศไทย เผยว่า กยท. ส่งเสริม สนับสนุนให้เกษตรกรชาวสวนยางพัฒนาผลผลิตของตนเองให้มีคุณภาพและมาตรฐานตามที่สากล ซึ่งรายได้จากการจำหน่ายผลผลิตยางที่มีคุณภาพ มาตรฐานเหล่านี้ จะเป็นการเพิ่มรายได้อย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งรวมไปถึงการส่งเสริมการทำสวนยางตามมาตรฐานการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนในระดับสากล เช่น มาตรฐาน FSCTM (Forest Stewardship Council) หรือมาตรฐาน PEFCTM (Program for Endorsement of Forest Certification) ซึ่งเป็นการรับรองว่าผลผลิตยางเหล่านั้น มาจากป่าปลูกที่จัดการป่าอย่างถูกกฎหมาย ไม่เป็นการบุกรุกหรือตัดไม้ทำลายป่า ถือเป็นการขับเคลื่อนการดำเนินงานของ กยท. ภายใต้นโยบายของ ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์) ที่ให้ความสำคัญเกี่ยวกับ การทำการเกษตรและส่งเสริมมาตรฐานผลผลิตการเกษตรที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมยอมรับ ซึ่งปัจจุบันคนส่วนใหญ่ จะมุ่งให้ความสนใจไปที่ มาตรฐานEUDR แต่ในความจริงแล้ว ยางมาตรฐาน FSCTM ถือเป็นอีกหนึ่งมาตรฐาน ที่ได้รับการยอมรับระดับสากลและเป็นที่ต้องการของตลาด
 
ดร.เพิก กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการส่งเสริมการทำสวนยางตามมาตรฐานการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืน ระหว่าง กยท. และทางบริษัท ซีเอ็ม-โอ ไทย จำกัด ในครั้งนี้ เป็นอีกก้าวหนึ่งในการสนับสนุนเกษตรกรเพื่อยื่นขอการรับรองมาตรฐานดังกล่าว โดยนำเอาแอปพลิเคชันมาใช้ในขั้นตอนเตรียมข้อมูล หวังว่าการร่วมมือกันระหว่าง กยท. และเอกชน จะนำไปสู่การขยายผลการขอรับรองมาตรฐาน FSCTM รวมไปถึงสามารถหาลูกค้าที่มีความต้องการวัตถุดิบที่ผ่านการรับรอง เพื่อนำไปใช้ในอุตสาหกรรมการผลิตผลิตภัณฑ์ยางได้มากยิ่งขึ้น
 
นายสุขทัศน์ ต่างวิริยกุล รองผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ รักษาการแทนผู้ว่าการการยางแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการรับรองมาตรฐานดังกล่าว สามารถเป็นหลักประกันได้ว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีการจัดการป่าไม้อย่างรับผิดชอบ ไม่ขัดต่อระเบียบกฎหมาย ทั้งนี้ การจัดการสวนป่าตามมาตรฐาน FSCTM จะคำนึงถึงความอยู่รอดทางเศรษฐกิจของสวนป่า โดยหลักประกันนี้ จะเป็นการเพิ่มมูลค่าให้ผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการตรวจรับรองได้ โดยปีงบประมาณ 2567 ทาง กยท. และบริษัท ซีเอ็มโอ-ไทย จำกัด ได้นำร่องใช้ระบบซอฟต์แวร์ยื่นข้อมูลขอรับรองมาตรฐานดังกล่าว ในพื้นที่สวนยางของเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนกับ กยท. ใน อ.สว่างดินแดน จ.สกลนคร ซึ่งสามารถดำเนินการได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้วกว่า 2,000 ไร่ ทั้งนี้ กยท. มีเป้าหมายขยายไปยังพื้นที่สวนยางทั่วประเทศ กว่า 25,000 ไร่ ภายในปีงบประมาณ 2568 สำหรับ ความร่วมมือนี้ กยท. จะเข้าไปสนับสนุน ส่งเสริม ให้ความรู้เกษตรกรชาวสวนยางเพื่อนำไปสู่การพัฒนา สวนยางตามมาตรฐานระดับสากล เพื่อเพิ่มมูลค่าผลผลิตยางพารา ไม้ยาง ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับยางพารา นอกจากนี้ กยท. จะเป็นผู้แทนในการประสานงานร่วมกับเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง เพื่อเข้าร่วมโครงการฯ
 
"การนำเครื่องมือ เทคโนโลยีซึ่งมีประสิทธิภาพ มาสนับสนุนการดำเนินงาน เพื่อให้เกิดการเพิ่มพื้นที่สวนยางที่ยื่นขอการรับรองมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง รวดเร็ว และมีต้นทุนต่ำ แน่นอนว่าจะมีส่วนช่วยให้ชาวสวนยางมีผลผลิตที่ผ่านการรับรองมาตรฐานดังกล่าวได้มากขึ้น นำไปสู่การเพิ่มรายได้จากราคาผลผลิตยางพรีเมี่ยม ถือเป็นการสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้ชาวสวนยางในอนาคต” รักษาการผู้ว่าการ กยท. กล่าวทิ้งท้าย
ทีมข่าวประชาสัมพันธ์ กยท.
« Back